เลือดจางห้ามกินอะไร โรคโลหิตจางหรือโรคเลือดจาง (Anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีเซลล์เม็ดเลือดแดงน้อยเกินไป จึงไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอ จนส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หน้ามืดบ่อยครั้ง ซึ่งอาจบรรเทาได้ด้วยการกินอาหารที่เหมาะสม การเรียนรู้ว่า โลหิตจาง ห้ามกินอะไรบ้าง จึงอาจช่วยให้ผู้ป่วยโรคนี้ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น โดยทั่วไป ผู้ป่วยโลหิตจางควรเลี่ยงการกินอาหารที่อาจลดประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น อาหารที่มีแคลเซียมสูงอย่างนม โยเกิร์ต ชีส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหล้า เบียร์ ไวน์ อาหารที่มีโพลีฟีนอลสูงอย่างชา กาแฟ และกินอาหารที่มีธาตุเหล็กซึ่งช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ผลไม้ตระกูลซิตรัสซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น หากป่วยด้วยโรคโลหิตจางแล้ว เราก็สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ด้วยการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม ซึ่งกระปุกดอทคอมก็มีข้อมูลโลหิตจางห้ามกินอะไร หรือเลือดจางต้องกินอะไรบำรุงมาฝาก
อาการของภาวะโลหิตจาง
อาการของผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปซึ่งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยเป็นได้ตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย ไปจนถึงมีอาการรุนแรง หรือบางรายอาจไม่แสดงอาการผิดปกติใดใด จนกว่าภาวะโลหิตจางจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาการผิดปกติเป็นผลมาจากการทำงานของหัวใจที่หนักขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนจากเลือดมากขึ้นนั่นเอง
- รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียกว่าปกติ ไม่สดชื่น
- มีอาการตัวซีด ตาเหลืองหรือผิวเหลือง
- เบื่ออาหาร
- หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
- รู้สึกมึนงง วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว
- เป็นลม หมดสติ
- มีอาการมือและเท้าเย็น
- เจ็บหน้าอก ใจสั่น รวมถึงหายใจลำบากเวลาใช้แรง
- หากอาการรุนแรงอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
- หากมีอาการเรื้อรัง อาจพบอาการมุมปากเปื่อย เล็บมีลักษณะอ่อนแอและแบน หรือเล็บเงยขึ้นมีแอ่งตรงกลางคล้ายช้อน
เลือดจางห้ามกินอะไร ?
สำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดจางควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารต่อไปนี้ เนื่องจากอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กและธาตุอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น
- ชา กาแฟ นมและผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด
- อาหารที่มีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) เช่น ถั่วลิสง ผักชีฝรั่ง ช็อกโกแลต
- อาหารที่มีแทนนิน (Tannins) เช่น องุ่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง
- อาหารที่มีไฟเตต (Phytates) หรือกรดไฟติก (Phytic Acid) เช่น ข้าวกล้อง ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี
อาหารที่ควรรับประทาน
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า บร็อคโคลี่
- ผลไม้วิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะนาว องุ่น สตรอว์เบอร์รี่เพื่อช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก
- ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด ลูกพรุน
- เนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อแดง
- ตับ
- อาหารทะเล โดยเฉพาะกุ้ง หอยนางรม หอยตลับ หอยลาย
- ธัญพืช เช่น ถั่วแดง ถั่วลันเตา ถั่วลิสง ถั่วพิตาชิโอ เฮเซลนัต แมคคาเดเมีย อัลมอนด์ งา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์
- ไข่
- ดาร์กช็อกโกแลต